
วันเดิมๆ เวลาเดิม เมนูเดิมๆ นั่นคือสิ่งเดิมๆ ที่เขามาที่นี่ เพื่อสิ่งนี้ ร้านอาหารกึ่งบาร์เล็กๆ ที่ผมทำงานเป็นพ่อครัวอยู่ที่นี่ เขามาที่นี่เพื่อรอคุยกับผมหลังจากเลิกงานแล้ว เขาทำแบบนี้มาประมาณสองเดือนแล้ว ตั้งแต่เริ่มออกตัวตรงๆ ว่าขอจีบผม
เขาชื่อ “ต้น” เพื่อนสมัยเรียนตั้งแต่ปวช.ต่างสาขา เรารู้จักกันเพราะว่าผมและเขาเป็นคู่แข่งกัน คู่แข่งคนสำคัญเลยก็ว่าได้ นั่นเพราะว่า การจะขึ้นไปอยู่บนทำเนียบเด็กเก่งนั้นเป็นเรื่องยาก แล้วมันก็ขึ้นอยู่เหนือผมตลอดตั้งแต่ตอนปี 1 แม้ว่าหลังจากนั้นเราจะสนิทสนมกันจนผมรู้สึกชอบมันก็ตาม แต่มันก็ดันเป็นคู่แข่งคนสำคัญนี่แหละครับ ความสัมพันธ์ของเรามันเป็นไปได้อย่างหวานอมขมกลืน ไม่ได้ราบรื่นอะไร เราสองคนอยู่ด้วยกันแบบต่างคนต่างเก็บความรู้สึก ผมชอบมันก่อน ผมรู้ดี ผมแพ้ใกล้ชิดมัน ทุกๆ ครั้งที่มีกิจกรรม เรามักจะได้อยู่ด้วยกันเสมอ เป็นกลุ่มผู้นำ เป็นกลุ่มที่ใครๆ ก็ต่างให้ความสนใจ แล้วพอจู่ๆ ไอ้ต้นที่ถูกให้ความสนใจโดยคนมากมาย ก็ดันกลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้ผมหงุดหงิด ไม่พอใจ สุดท้ายก็กลายเป็นชอบ…ชอบที่แปลว่าพูดไม่ได้ แย่ชะมัดเลย
ผมเก็บทุกๆ ความรู้สึกนี้เอาไว้ ตั้งแต่เรียนปวช. กระทั่งจบปวส. ผมก็คิดว่าตัวเองเก็บความลับได้ดีระดับหนึ่งเลยละ แต่เพราะว่าดันเมาเสียก่อนในวันปัจฉิมนิเทศตอนปวส. ก็เลยโดนมอมเหล้าแล้วพลั้งปากพูดไปว่าชอบไอ้ต้น เท่านั้นแหละครับ วงแตกกันเลยทีเดียว เพราะว่าเพื่อนๆ ที่ถามมันต้องการคำตอบที่ว่าสาวคนไหนที่ผมแอบชอบมาตลอด พอรู้ว่าเป็นผู้ชายก็เลยกลายเป็นว่าอึ้งๆ กันอยู่ โดยเฉพาะไอ้ต้น ที่มันหายไปจากชีวิตผมเลยเป็นผี น่าตลกดีเหมือนกัน ที่ชะตาชีวิตโคตรพลิกผัน จากเด็กเรียนดีคนหนึ่ง กลายมาเป็นคนตกงาน ชีวิตทางบ้านประสบปัญหา ผมเลยต้องดรอปเรียนมหาลัยกลางคัน แล้วมารับจ๊อบเป็นพนักงานครัวกับรุ่นพี่ที่รู้จัก ด้วยความหัวไวเป็นทุนเดิม ผมเลยกลายเป็นพ่อครัวของที่ร้านนี้แล้วก็คิดว่าจะดรอปเรียนไปยาวๆ นั่นเพราะว่าค่าแรงมันสูงกว่าบัณฑิตใหม่ตั้ง 2 เท่าแน่ะ ไม่รวมทิป และเซอร์วิสชาร์จอีกต่างหาก
กระทั่งวันที่มันกลับมา มันมาที่ร้าน ถามถึงผม ถามว่าเมนูอะไรที่ผมทำอร่อยที่สุด แล้วมันก็สั่ง พร้อมกับเครื่องดื่ม 1 อย่าง ก่อนที่มันจะเรียกผมออกมาหามันที่โต๊ะ ตกใจเล็กน้อยที่อีกฝ่ายเป็นมัน แต่ต้นก็โตขึ้นค่อนข้างมาก เขาแต่งตัวดูภูมิฐานมากขึ้น ผมยาวมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น แล้วทันทีที่ผมเดินออกมาหาเขาในฐานะเชฟ ที่มันทำท่าเรียกเหมือนกับว่าอาหารของผมมีเรื่องผิดพลาด มันก็พูดว่า
เรียกเชฟออกมาเพราะอยากจีบเช“ฟครับ…” พูดแล้วเท้าคางก่อนจะยิ้ม
“เรียกออกมาแค่นี้น่ะเหรอ ?” ผมเอียงคอถาม “แขกเริ่มมาแล้ว ไว้ค่อยคุยกันนะ”
“ไม่ดีใจสักหน่อยเหรอ ที่คนที่บอกว่าชอบตอนนั้นบุกมาจีบถึงที่นี่น่ะ”
“ดีใจ แต่ไม่ว่าง…”
“แล้วกูจะเจอมึงได้ที่ไหน ?”
“ถ้ามึงกล้ารอ…กูเลิกงานห้าทุ่ม ที่ลานจอดรถหลังร้าน มาเจอกูดิ” ผมบอกไปแบบนั้นแล้วเดินกลับไปที่ในครัวไม่มั่นใจนักหรอกว่ามันจะรอ ทว่าท้ายที่สุดแล้ว ตอนที่ผมเลิกงาน จัดการครัวเสร็จแล้ว มันก็ดันอยู่ตรงนั้น อยู่ที่ๆ ผมบอกให้มันรอ ลานจอดรถพนักงาน มันยืดกอดอกมองผมแล้วยิ้มแปลกๆ อยู่ตรงนั้น
“ไง…”
“ไม่คิดว่าจะรอจริง…” ผมพูดแล้วเดินลงไปหามัน “อ่ะว่ามา…ทำไมจู่ๆ ถึงมาบอกชอบกู ทั้งๆ ที่เสือกหายไปขนาดนั้น จนกูจะมีแฟนใหม่อยู่แล้ว”
“สืบแล้วว่าไม่มีเลยมา” มันยักไหล่ “ว่าไง ยังชอบกูอยู่ใช่ไหม ?”
“ก็คงงั้น…แต่ก็ไม่ได้ง่ายนะ” ผมว่า “ทำให้กูรู้ดิ ว่ามึงชอบกู ให้คุ้มกับที่กูชอบแล้วก็รอมึงมาตั้งสองปี”
“ได้…กูซะด้วย” พูดจบมันก็เดินจากไป โดยที่ไม่ได้บอกอะไรผมสักอย่าง ไม่กระทั่งขอเบอร์ และไม่ทำตัววุ่นวายใดๆ ด้วย หายไปทั้งอย่างนั้น ก่อนที่มันจะมาหาผมแบบวันเว้นสองวันตลอดระยะเวลาสองเดือน ทำอะไรเดิมๆ เหมือนที่ผมบอก แล้วก็วางทิปให้ผมตลอด ราวกับมันรู้ว่าเงินซื้อผมได้
ผมเดินลงมาที่ลานจอดรถหลังร้านเหมือนเดิม วันนี้ต้นมาหาผมอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาสองเดือนจากวันนั้น เขายังกอดอกมองผมอยู่เหมือนเดิม แล้วยิ้มกว้าง “ถ้ารอนานกว่านี้ กูขาดใจตายแน่…”
“ก็ไม่คิดว่าจะรอนานขนาดนี้”
“แล้วทำไงต่ออ่ะ ?” ต้นว่า “จีบเลยได้ไหม จีบยังไง ชอบอะไร เดทกันไหม ?”
“เดทดิ ผมพยักหน้า
ผมยิ้ม “ห้องกู
“ที่ไหนวะ ห้าทุ่ม มีแต่เซเว่น
เราเองก็ต่างรู้อยู่แล้ว ว่าเราต้องการอะไร ผมกอดมันเบาๆ ระหว่างทางที่มาห้องผม จอดรถไว้ที่ร้าน ให้เวลามันทั้งคืน ก่อนที่พรุ่งนี้จะเป็นวันหยุด จะมีเวลาว่างมากพอที่จะทำอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที แต่วันนี้ วินาทีนี้ คือช่วงเวลาของเราสองคนที่ไม่มีใครเข้ามายุ่มย่ามอีกแล้ว
ภายในห้องน้ำห้องเล็กๆ เราสองคนเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้ากัน ต่างโอบกอดลูบไล้เรือนร่างระหว่างปล่อยให้สายน้ำค่อยๆ ไหลผ่านร่างกายของเราทั้งสองคน เราจูบกันอย่างดูดดื่ม ทั้งเร่าร้อนและอ่อนหวาน ก่อนที่ส่วนแก่นกายของเราจะแข็งขืนจนตั้งตรงขึ้นมาแล้วเสียดสีกันช้าๆ เราบิดร่างกายไปมาให้ส่วนนั้นสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา ทว่ามันก็สั่นระริกด้วยความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคน
ต้นเอื้อมมือคว้าแก่นกายของผมเอาไว้ เช่นกันกับที่ผมเองก็ทำแบนั้น ก่อนจะผลัดกันชักรูดรั้งแก่นกายให้กันอย่างแช่มช้า แล้วค่อยเร่งจังหวะมากขึ้นเรื่อยๆ จังหวะการชักของเราทั้งคู่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ทว่าต้นกลับล้อหลอกหยอกเย้ากับส่วนหัวของผมจนแขนขาไร้เรี่ยวแรง ต้องยื่นหน้าซบบ่าของเขาโดยปล่อยให้เขาทำอะไรก็ได้กับส่วนอ่อนไหวนั้นของผมตามใจชอบ
“อึ๊…อ๊ะ อ๊า…ซี้ดดดด ต้น….กูเสียว”
ผมกอดเขาเอาไว้แน่น แนบหน้าลงกับอกของเขา ต้นเองก็กอดผมเอาไว้ ก่อนจะลูบไล้แผ่นหลังของผมเบาๆ ระหว่างที่มือก็ชักรูดรั้งแก่นกายอย่างต่อเนื่อง
“ดีใจที่มึงชอบ…คืนนี้กูจะทำให้มึงรู้สึกว่าการรอกูมันคุ้มค่าที่สุด”
เขาเชยคางผมขึ้น แล้วจูบผมผ่านสายน้ำอุ่นที่รินไหลลงมาแผ่วเบา ก่อนกดบ่าผมลงช้าๆ ให้คุกเข่าลงตรงแก่นกายของเขาที่ผงาดรออยู่แล้ว