เรื่องเสียวเกย์ เล่าประสบการณ์เรื่องเสียวชายรักชาย เรื่องเล่าgay เรื่องเล่าgayจากทางบ้านบอกเล่าประสบการณ์ชายรักชายในมุมมองที่ต่างออกไป แหล่งรวมเรื่องเสียวเกย์ที่นี่ที่เดียว

(เพื่อน) หลงรักที่ปรึกษา ตอนแรก

               บางที ความรักมันก็เกิดขึ้นจากหลายๆ สาเหตุ ระหว่างคนๆ เดียวบ้างละ ระหว่างคนสองคนบ้างละ สุดท้ายไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นแบบไหน ผมก็เรียกมันว่าความรักอยู่ดีนั่นแหละ สำหรับเรื่องราวที่ผมจะเอามาเล่าให้ฟังในวันนี้มันเป็นเรื่องราวความรักของผมกับเพื่อนสนิทที่อยู่กันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว เราไม่เคยสนใจมันเลยว่ามันจะรักใครชอบใคร เพราะผมคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของใครของมัน แต่พอมีปัญหาเข้าจริงๆ ก็กลายเป็นผมนี่แหละที่โยนปัญหาใส่มันตลอดๆ จนรู้สึกว่าเราทำร้ายเพื่อนคนนี้มากเกินไป

               มันชื่อว่า “เอส” ผมสนิทกับมันตั้งแต่ตอนป.3 มันเป็นเด็กใหม่ที่เข้ามา เป็นผู้ชายที่นิ่มๆ อ่อนหวาน จนกระทั่งมันชอบโดนล้อว่าเป็นตุ๊ด แล้วเพื่อนๆ ก็มักจะแกล้งมันบ่อยๆ ผมเลยเอามันมาเป็นเพื่อนแบบไม่ได้คิดอะไร และเพื่อนๆ ก็ไม่ได้กล้าทำอะไรมันอีก เพราะว่าผมเป็นหัวหน้าห้อง ผมเรียนเก่ง และจะไม่ให้พวกนั้นลอกงาน ถ้าคนอื่นๆ แกล้งเอส สุดท้ายผมก็กลายเป็นคนปกป้องมันมาโดยตลอดตั้งแต่นั้น และมันก็เรียนเก่งพอๆ กับผมอีกด้วย เรียกว่าได้เกรดเฉลี่ย 4.00 ตามกันมาตั้งแต่ป.4 เลยก็ว่าได้ จนกระทั่งป.6 ผมเริ่มโตแล้ว ผมสูงกว่าเพื่อนๆ ในห้อง และเสียงก็เริ่มแตกหนุ่มแล้วเหมือนกัน ส่วนสูงตอนนั้นก็เฉียดๆ 170 ทำให้สูงกว่ารุ่นพี่ม.3 บางคนเสียอีก

               ผมแอบชอบรุ่นพี่ม.1 เธอเข้ามาใหม่ ผมก็เลยให้ไอ้เอสนี่แหละครับเป็นพ่อสื่อให้ สมัยก่อนก็จะเป็น ส่งจดหมายซะส่วนใหญ่ แล้วก็นัดมาเจอกันที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ แล้วผมก็ได้คบกับเธอในที่สุด เรียกได้ว่าเอสนี่คือเพื่อนที่แสนดีเลยก็ว่าได้ ผมได้คบกับรุ่นพี่คนนี้ทำเอาโดนรุ่นพี่เขม่นไปหลายคนเหมือนกัน กระทั่งเราทะเลาะกัน ผมก็มานั่งพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ให้ไอ้เอสฟัง เป็นแบบนี้มาตลอด จนกระทั่งตอนนี้ ผมกำลังจะจบม.3 แล้ว สิ่งที่อาจจะน่าใจหายหน่อยก็คือ ม.ปลายผมจะไปต่ออาชีวะ ส่วนเอสจะไปเรียนต่อสายสามัญ ทำให้เราอาจจะต้องมีเส้นทางชีวิตที่แยกกันออกไป แล้วในตอนนั้นผมก็โดนรุ่นพี่จากม.ปลายมาแย่งแฟนไปด้วย สุดท้ายผมก็เรียกไอ้เอสให้พาไปหาเขาตามนัด ที่ว่าจะซัดกันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ปรากฏว่าไอ้พวกนั้นแม่งหมาหมู่ มาถึงก็เล่นพวกกระทืบผมยับสามสี่คนจนไอ้เอสต้องมาห้าม

               วินาทีนั้นมันตะโกนใส่ผมว่า “ขนาดตอนที่แข่งเธอควรเป็นกลาง ยังไปยืนข้างไอ้นั่นเลย คิดว่าชนะแล้วเขาจะกลับมาหรือไงวะ เขาเลือกแล้ว เขาเลือกรุ่นพี่คนนั้น ไม่ใช่มึง พอเถอะ”

               ผมรู้สึกฉุกคิดขึ้นมาเหมือนกัน เพราะว่าในตอนที่ผมโดนกระทืบ เธอไม่คิดว่าจะห้ามผมเลยสักนิด แถมยังกอดแขนเขาอีกด้วย แล้วตอนนั้นไอ้เอสก็โดนต่อยร่วงลงมากับผม จนในวินาทีสุดท้ายที่ผมเจ็บใจที่สุดคือไอ้เอสพนมมือขึ้นแล้วไหว้ขอให้มันหยุดท่ามกลางสายฝน

               ไอ้พวกนั้นยื่นเข้ามาวางตรงหน้าของเอสแล้วบอกให้เอสกราบตีน

               ผมร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บใจ วินาทีที่เอสกราบตีนไอ้พวกนั้น ก่อนที่มันจะแบกผมกลับมาส่งที่บ้าน

               มันทำแผลให้ผม ทั้งๆ ที่ตัวมันเองก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าผมเลย แถมยังเอาศักดิ์ศรีไปแลกกับการช่วยชีวิตผมด้วย

               “ทีหลังมึงก็เลิกทำอะไรแบบนี้ซะนะ…เดี๋ยวขึ้นม.ปลายก็อาจจะเจอคนดีๆ กับมึงก็ได้” มันบอก

               “ใครมันจะดีกับกูเท่ามึงวะเอส” ผมพูด “ขอโทษนะ ที่ทำให้มึงต้องทำแบบนั้น”

               “แค่กราบตีนอะมันไม่เท่าไหร่หรอก ถ้ามึงเป็นอะไรไปมากกว่านี้กูจะเจ็บใจมากกว่าอีก” มันพูดแล้วค่อยๆ ทายาตรงแผลที่หน้าแข้งของผม

               “อยากมีแฟนที่ดีกับกูเหมือนมึงบ้างจังว่ะ”

               มันเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มเหยียด “ถ้าไม่ใช่กูก็ไม่มีใครหรอกว่ะ” แล้วก็ก้มหน้าทำแผลต่อ

               “เอส…มึง”

               “แล้วก็ไม่ต้องมาพูดอะไรประเภทที่ว่า ถ้ากูเป็นผู้หญิงมึงคงรักกูแล้วนะ เอียนว่ะ ประโยคโลกสวย”

               “เปล่า” ผมชักเท้าที่มันทำแผลกลับ “แค่รู้สึกว่า ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นก็แม่งก็ไม่รู้สึกอะ แต่กับมึง…บางทีกูรู้สึกเฉยเลย”

               มันยังเงยหน้ามามองผมแล้วยิ้ม “อย่าเลย พูดแบบนี้รู้มั้ย ว่าวันหนึ่งถ้ามึงไม่ได้รู้สึกจริงๆ คนจะเจ็บคือกูนะ เป็นเพื่อนกันไปแบบนี้แหละ วันหนึ่งถ้ามึงไม่มีใครจริงๆ ค่อยแวะมาหากูก็ได้…รอ”

               “รอเหรอ ?”

               มันพยักหน้า “ใช่…กูรอ นี่กูรอมาตั้ง 5 ปีแล้วนะ ตั้งแต่วันแรกที่มึงช่วยกูจากพวกนั้นเลย”

               “ไอ้เชี่ยเอส แล้วทำไมไม่บอก”

               “บอกแล้วไง เด็กผู้ชายป.3 ที่ไม่เข้าใจโลก จะมาคบกับผู้ชายด้วยกันเหรอ ฝันไปเหอะ…เอาหน้ามา จะทำแผลให้”

               ผมยื่นหน้าเข้าไปหน้ามันที่กำลังยกตัวขึ้นมาแล้วผมก็ฉวยโอกาสหอมแก้มมันไปฟอดหนึ่ง ทำเอามันเหวอแดกไปเลย

               “ไอ้เหี้ยนี่…กูบอกว่าอย่าทำ ไม่ใช่รู้ว่ากูชอบแล้วจะทำอะไรกับกูก็ได้นะ”

               “จะลองคบกับกูไหมล่ะ ?” ผมถามแล้วยิ้ม “รู้จักสันดานกูดีนี่”

               “ไม่คบอะ เบื่อจะหึง”

               “แต่ก็หึงมาตลอดนี่…” ผมหัวเราะ จะว่าไปมันก็น่ารักเหมือนกันนะ “ไง จะคบไหม ไม่คบจะได้ไปจีบคนอื่น”

               “แม่ง…มึงจีบกูเหมือนผู้หญิงของมึงไม่ได้เหรอวะ ?”

               “เนี่ย ถือว่าจีบแล้ว…ถ้าคบก็ขึ้นเตียงมาเลย แต่ถ้าไม่คบก็กลับไป”

               “ควยเอ๊ย” มันทำท่าลุกขึ้นแล้วเดินออกไป เอาจริงๆ ผมใจแป้วเหมือนกันนะ แต่ปรากฏว่าวินาทีต่อมามันก็วิ่งเข้ามากระโดดกอดผมจนหงายตึงลงบนเตียง ผมกอดมันไว้แน่นแล้วหอมแก้มมันอีกครั้งหนึ่ง “เออ…คบ”

               “ดูแลกูด้วยนะ…เหมือนที่ดูแลตลอดมานั่นแหละ”

               “เออ…ไม่มีปัญหา” มันพยายามลุก แต่ผมกอดมันเอาไว้ “ลุกก่อน…ไม่ได้ ไอ้เหี้ย ตอนนี้ไม่ได้”

               “ไม่ได้เหรอ ?” ผมยิ้มเยาะ “แข็งแล้วนะ ไม่ได้เหรอ ?”

               “ไอ้…เชี่ย”

               “เป็นแฟนกันแล้วก็ต้องทำได้…ถูกไหม ?” ผมดึงหน้ามันเข้ามาจูบ ครั้งนี้เป็นจูบที่ผมตั้งใจ จูบแรกของเรา ก่อนที่ผมจะใช้ปลายลิ้นปิดทางหนีของมันทันที ผมสอดแทรกปลายลิ้นเข้าเกี่ยวกระหวัดกับมันจนมันเริ่มจูบตอบ มือที่กอดก่ายกลายเป็นเล้าโลมอย่างช้าๆ แล้วลูบไล้เรือนร่างของมันอย่างตั้งใจ

               ผละออกจากจูบแล้วมองหน้ากัน “อ่อนโยนกับกูด้วยนะ”

               “ครับ…เจ้าหญิงของผม”

               ผมค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกช้าๆ ใช้เท้าเขี่ยวกล่องทำแผลที่ตอนนี้เหมือนมันจะไม่จำเป็นเท่าไหร่แล้ว เราต่างกำลังรักษากันและกันด้วยสัมผัสทางกาย  ก่อนที่มันจะลุกขึ้นมานั่งที่ปลายเตียง ดึงผมเข้าไปกอด แล้วพรมจูบที่หน้าท้องอย่างแผ่วเบาพลางลากปลายนิ้วผ่านชั้นในตัวบางแล้วดึงมันลงอย่างแช่มช้า

               ควยของผมถูกมันจับแค่ไม่นานก็เริ่มแข็งตัวขึ้น มันชักควยผมเบาๆ ขณะที่แหงนหน้ามองผมแล้วยิ้ม ใช้ปลายลิ้นเลียส่วนหัวควยที่ถอกออกมาเบาๆ

               “อมสิ…อมควยให้หน่อย ปกติไม่เคยให้ใครอมนะ เย็ดอย่างเดียว”

               มันไม่ได้ตอบอะไร อ้าปากแล้วอมควยให้ผมทันที