
เรื่องที่ผมจะเล่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง มันเป็นเรื่องที่อาจจะไม่ค่อยถูกควรเท่าไหร่ หากแต่มันก็เป็นเรื่องราวที่สวยงามและน่าจดจำสำหรับผมมาเสมอเหมือนกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราวๆ 7 ปีก่อน สมัยที่ผมเรียนปวส. อายุน่าจะราวๆ 18 ปลายๆ เข้า 19 ซึ่งผมเองนั้นเริ่มรู้ตัวเองว่าเป็น LGBTQ+ แล้ว จริงๆ ก็ตั้งแต่จบม.ต้นแล้วครับ มันเริ่มตั้งแต่ผมรู้สึกดีๆ กับเพื่อนผู้ชาย แอบมองเพื่อนๆ เวลาเล่นกิจกรรม เล่นกีฬา เล่นพละ หรือว่าเข้าค่ายต่างๆ ที่ต้องใช้ช่วงเวลาด้วยกัน ทั้งนอนรวมกัน หรือตอนที่อาบน้ำแล้วต้องใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น ทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ เลยละครับ แต่ผมก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ให้ลึกสุดใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะแอบชอบใครต่อใครไปเรื่อยๆ แบบว่าสะดุดตาก็รู้สึกชอบไปหมด อาจจะเพราะว่าเราไม่ได้ลงหลักปักใจกับใคร แค่การแอบรักพอกระชุ่มกระชวยหัวใจก็พอแล้ว
จนกระทั่ง ในปีที่เกิดเรื่องนั่นแหละครับ ญาติห่างๆ ของผมย้ายมาทำงานที่ต่างตำบล ด้วยสภาพการเป็นอยู่ที่อาจจะไม่ได้สวยหรู หรือเรียบร้อยเท่าไหร่ ทำให้พี่นุ่น ที่มีศักดิ์เป็นน้าของผมนั้นเอาลูกชายมาฝากไว้ให้ผมดูแล หมายถึงว่าเขาโอนเงินมาให้ทุกอย่าง แต่ว่าให้มาอยู่กับผม เพราะว่าสะดวกสบายกว่าในทุกๆ เรื่อง นั่นทำให้ในเวลานี้ เตียง 5 ฟุตของผมต้องถูกแบ่งครึ่งให้เด็กหนุ่มที่มีศักดิ์เป็นหลายชายห่างๆ ของผม ที่ชื่อว่า “ไผ่” เด็กชายอายุ 14 ปี เรียนม.2 หน้าตาน่ารัก คิ้วเข้ม ตาคม ตัวเล็กๆ สไตล์เด็กกำลังโต เรียกว่าผมรู้สึกผิดเล็กๆ ที่ผมดันต้องตาต้องใจกับเจ้าเด็กคนนี้เสียแล้วละครับ แต่ก็อย่างว่า ผมอาศัยเก็บเล็กผสมน้อยเป็นอาหารตาไปวันๆ เพราะด้วยความที่เป็นผู้ชายด้วยกัน อยู่ด้วยกัน เลยไม่ค่อยได้อายอะไรเท่าไหร่ ใส่กางเกงตัวเดียวนอนด้วยกัน ถึงขั้นอาบน้ำด้วยกัน ซึ่งผมเองนี่แทบบ้า เพราะเก็บอาการแทบจะไม่อยู่บ่อยครั้ง
ในบางทีที่ผมรู้สึกขึ้นมา การแกล้งนอนไปกอดเขาก็เป็นเรื่องที่ผมทำอยู่บ่อยๆ ทว่าหลังๆ ผมก็เริ่มคิดได้ว่ามันไม่ได้ดีงามเท่าไหร่ แต่กลายเป็นว่าหลังๆ ไผ่กลับกลายเป็นคนที่มานอนกอดผมแทน แล้วในคืนหนึ่ง เขาก็พูดขึ้นกับผมว่า “ทำไมเดี๋ยวนี้ พี่ไม่ค่อยนอนกอดผมเลย…รังเกียจเหรอ?” นั่นเป็นคำถามที่ยิงเปรี้ยงใส่ผมเต็มๆ เลย ผมก็บอกแค่ว่า ไผ่ก็โตแล้ว ไม่ได้อยากให้รู้สึกว่ารำคาญ เลยพยายามไม่สนใจ ทั้งๆ ที่ความจริงผมสนใจเขาจะแย่ บ่อยครั้งที่แอบสัมผัสส่วนกลางกายของเขาเวลาที่นอนแล้วแอบไปช่วยตัวเองในห้องน้ำ มันรู้สึกผิด…ผิดเกินไป กระทั่งเป็นเขาที่ค่อยๆ เอาความผิดในใจของผมไปโยนทิ้งด้วยคำว่า “ผมอยากให้พี่นอนกอดผม…เหมือนแรกๆ” นั่นเป็นคืนแรก…ที่ผมดึงเขามากอดโดยที่ไม่จำเป็นต้องแกล้งหันไปกอดเขาอีกแล้ว
สองขาเกยก่ายกันภายใต้ผ้าห่มผืนเดิม มันเป็นความรู้สึกวูบไหวที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ ราวกับว่าต่างฝ่ายต่างตอบรับความรู้สึกกันและกันผ่านทางร่างกาย ลมหายใจ และจังหวะการเต้นของหัวใจ เสียงหายใจสองเราดังฟืดฟาด ก่อนที่ผมซึ่งวางมือทาบแก้มของเขาจะค่อยๆ ไล้ปลายนิ้วไปตามเรือนแก้มนุ่มๆ นั้น ไล้ลงมาจนกระทั่งถึงริมฝีปากที่เผยอเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ยินยอมให้ผมก้มลงไปจูบอย่างแผ่วเบา
ริมฝีปากของเราสัมผัสกันสองสามครั้ง ก่อนที่การจูบจะถลำลึกมากขึ้น ลมหายใจถูกแลกเปลี่ยน เรียวลิ้นสอดส่ายกระหวัดเกี่ยวพัดกันในเวลานั้น สองมือกอดก่ายไปมา พร้อมกับผละจากรสจูบ แล้วจูบซ้ำหลายต่อหลายครั้ง ทั้งๆ ที่สองคนหลับตาแน่น
“รู้ใช่ไหม…ว่ามันจะเกิดอะไร ถ้ายังไม่หยุดแบบนี้ ?” ผมถาม
“รู้ครับ…แต่ไม่เป็นไร”
พูดจบ ไผ่ก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบผมอีกครั้งด้วยตัวเอง มือของเขาค่อยๆ ลูบไล้เรือนร่างผมช้าๆ ก่อนเลื่อนลงไปสัมผัสหน้าท้องที่หายใจไม่เป็นจังหวะ เกี่ยวขอบกางเกงด้วยปลายนิ้ว ก่อนจะเลื่อนมันลงช้าๆ แก่นกายที่หลับใหลรู้ว่ากำลังจะถูกกระตุ้น ชิงแข็งขึ้นมาก่อน มือเล็กๆ ของเขาสอดเข้ามาในพื้นที่อ่อนไหวแล้วกำคว้าแก่นกายของผมเอาไว้ ขณะที่จูบของเรายังทำงานอย่างต่อเนื่อง ผมเองก็ค่อยๆ สอดมือผ่านขากางเกงของเขาเข้าไปเช่นกัน ก่อนจะได้สัมผัสแก่นกายที่เริ่มแข็งขืนไม่ต่างต่างตนเอง
ในระหว่างที่รสจูบเข้มข้นและร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ มือของเราก็ต่างชักรูดรั้งแก่นกายของกันและกันไปด้วย ผมรูดรั้งส่วนปลายพ้นโผล่ส่วนหุ้มด้านนอกแล้วใช้นิ้วโป้งไล้ไปตามดอกเห็ดที่สั่นระริกนั้น พลันส่งให้ร่างกายของเขากระตุกแผ่วเบาแล้วส่งเสียงครางออกมาในลำคอ
“อะ…อึ๊”
เท่านั้นเอง ราวกับการกระตุ้นถูกกระทำจนถึงขีดสุดแล้ว ผมเปิดผ้าห่มขึ้นแล้วโยนทิ้งลงไปข้างเตียง แสงไฟจากโคมสีส้มระเรื่อแค่นั้นก็มากพอ ผมขยับร่างกายสอดเข้าระหว่างขาทั้งสองข้าง ก่อนถอดกางเกงของเขาออก เผยให้เห็นท่อนเนื้อที่แข็งขืนตั้งตรงหน้า ผมแยกขาเขาออกช้าๆ แล้วชะโงกหน้าลงไปพรมจูบที่ไข่ทั้งสองข้างเบาๆ เคลื่อนปลายลิ้นเลียขึ้นมาตามลำนั้น ก่อนจะใช้มืออีกข้างชักรูดรั้งจนมันแข็งมากพอที่จะครอบริมฝีปากลงไปอมให้ผมทันที
“อ๊ะ…อื๊อออ พะ พี่…”
ผมดูดดุนแก่นกายนั้นราวของหวาน เคลื่อนใบหน้าขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ ขณะที่เรียวลิ้นก็ทำหน้าที่ภายในนั้นอย่างเต็มที่จนสองมือของเขากำแน่น ร่างกายแอ่นสูง…ร่างกายของเขา เป็นของผมทั้งหมดแล้วในตอนนี้