
ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นและจำได้คือเพื่อนหลายๆ คนที่กำลังสรวลเสเฮฮากันอย่างเต็มที่ในวันเกิดของ แบ็ค หัวหน้าห้อง ที่บ้านนั้นโครตจะรวยแบบมหาซูเปอร์รวยกันเลยทีเดียว ด้วยเพราะว่าอีกอาทิตย์เดียวก็จะสอบปลายภาคม.6 กันแล้ว ชีวิตเพื่อนๆ ต่างจะใกล้ถึงทางแยกของความฝัน ชีวิตมหาลัยรอเราอยู่ไม่ไกลมากมายเท่าไหร่นัก ดังนั้นแล้ว มันเลยชวนเพื่อนๆ ในกลุ่มมาปาร์ตี้วันเกิดที่บ้านมัน พร้อมทั้งอาหารและเหล้าแบบไม่อั้นกันเลยทีเดียว
ด้วยความที่มันโตแล้ว และพ่อแม่มีมันเมื่อพร้อม ไอ้แบ็คจึงมีทุกๆ อย่าง แม้กระทั่งอิสระ งานวันนี้เลยค่อนข้างเต็มที่ ผมเองที่เป็นสายเมาอยู่แล้วก็เลยไม่ได้กลัวอะไรเลย มั่นใจสุดๆ ว่าตัวเองคอแข็ง แต่ปรากฏว่าผมมันกระจอกไปเลย เมื่อไปเจอเหล้าที่ไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่ ชีวิตของผมมันก็ชินแค่เหล้าขาวกับเหล้าสีปกตินั่นแหละ ทว่าสิ่งที่มันเอามาด้วยเป็นเหล้าแปลกๆ เช่นเหล้าที่มีกลิ่นของกาแฟ ช็อกโกแลตนม รวมทั้งเหล้าปีศาจ ที่เป็นสีเขียว ปริมาณแอลกอฮอล์สูงลิ่ว วิธีการกินคือการเบิร์นน้ำตาลลงไป ด้วยความอยากลอง ผมเลยจัดทุกๆ อย่างเท่าที่จะทำได้ เพราะโอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ ยิ่งรู้ว่าราคามันแพงขนาดไหนแล้ว วิญญาณนักรบเข้าสิง และนั่นแหละครับ เป็นภาพสุดท้ายที่ผมนึกออก
ผมตื่นขึ้นมาในห้องนอนสลัวๆ ด้วยแสงไฟสีฟ้าๆ มีเพลงเปิดคลอเบาๆ พยายามจะขยับตัว แต่ปรากฏว่า สองแขนของผมโดนล็อกไว้ด้วยแม่กุญแจกับหัวเตียง สองขาก็โดนล็อกเข้าด้วยกัน ความสับสนและกังวลทำให้ผมเริ่มดิ้นและโวยวาย แต่ทันทีที่บานประตูห้องน้ำเปิด แล้วผมได้เห็นร่างใครสักคนที่เดินถือแก้ววิสกี้ออกมา ทำเอาผมเงียบแบบเงียบสนิทเลยก็ว่าได้
“ไอ้…ไอ้เนิร์ด!!!???”
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ ?” มันยิ้มร่าแล้วกระโดดขึ้นเตียงมานอนข้างๆ ผม หนุนลงบนแขนผมที่พยายามดิ้น นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันละเนี่ย อยู่ ๆ ทำไมผมกลายมาเป็นแบบนี้ หรือว่าเพราะเมาจนภาพตัดเลยโดนเพื่อนแกล้งงั้นเหรอ ?
ไอ้เนิร์ด มันไม่ได้ชื่อเนิร์ด มันชื่อว่า มิน ที่เรียกมันว่าไอ้เนิร์ดก็เพราะว่ามันใส่แว่นสายตาหนาเตอะเลย แล้วมันก็เป็นเด็กเรียน พูดน้อย เป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของกลุ่ม ที่ทุกๆ คนจะรอลอกการบ้านมันในทุกๆ เช้า เรียกว่าตั้งแต่ม.2 ที่มันย้ายเข้ามากลางคันจนถึงวันนี้ ก็ได้การบ้านจากมันนี่แหละช่วยเอาไว้ แต่ไอ้ลุคตอนนี้ ผมไม่ชินเลยสักนิดเดียว
“ไอ้เนิร์ด…มึงจะทำไรกูเนี่ย ?” ผมพยายามดิ้น “ปล่อย…ปล่อยกูน่า ใคร ใครแกล้งกูเหรอ ใครมันรอถ่ายคลิปกู ไม่ตลกนะโว้ย” ผมตะโกนสุดเสียงแล้วพยายามดิ้น แต่ใบหน้าหวานเยิ้มแล้วรอยยิ้มหวานๆ ของไอ้เนิร์ดก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยจริงๆ
“ไม่มีใครอยู่ข้างนอกนั่นหรอก…นี่บ้านกู นอกจากกูกับมึงก็ไม่มีใครเลย”
“งั้นมึงก็ปล่อยกูดิ เล่นเหี้ยอะไรเนี่ย”
“ไม่ได้เล่น…นี่เอาจริง…” มือเย็นๆ ของมันลูบไล้ไปทั่วๆ เรือนร่างของผมที่พยายามบิดเร่า น้ำเสียงไม่ได้หลุดออกจากปาก เพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่ลึกๆ รู้สึกดี แต่ไม่ชอบที่โดนพันธนาการอยู่อย่างนี้ต่างหาก มือของมันวาดไปเรื่อยๆ จากเนินอก ลำคอ หน้าท้อง แล้วลูบลงไปสัมผัสที่ส่วนกลางกายของผม ก่อนจะลูบไล้อยู่แค่บริเวณนั้น
“ไอ้เนิร์ด…กูแจ้งตำรวจนะไอ้สัตว์ นี่แม่งไม่ตลก”
เขาหยุดมือลง แล้วหยิบแว่นมาสวม “เพราะแบบนี้ไง เลยล็อคเอาไว้”
“มึงจะทำเหี้ยอะไรกู ปล่อย ถ้ากูหลุดไปได้…มึงจมตีนกูแน่”
“กูชอบมึง…” มันพูดสวนผมมา “ชอบจนไม่รู้ว่าจะทำยังไง ชอบจนจะเป็นจะตาย แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ได้ใกล้มึงมากกว่าตอนที่นั่งข้างกัน กินข้าวด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน นั่งลอกการบ้านกู คิดว่ามึงจะตื่นยากกว่านี้ แต่มึงตื่นแล้ว…งั้นก็บอกเลยแล้วกัน ไหนๆ กูก็ยังไม่ได้ทำอะไรมึง แล้วกูก็ได้บอกความในใจไปแล้ว…” มันเดินไปคว้าลูกกุญแจแล้วเอามาปลดกุญแจมือของผมทั้งสองข้าง และเท้าที่ยึดติดกันเอาไว้
“ชอบกู…แล้วต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอวะ ?”
“คิดว่าถ้ามึงขยับได้ กูจะกล้าพูดไหม มึงน่าจะต่อยกูแว่นแตกไปแล้ว ที่สำคัญ ตอนนี้กูก็เมาๆ อยู่ด้วย เลยคิดว่าถ้าพูดไปพรุ่งนี้ก็จะลืม และคิดว่ามึงก็น่าจะลืม”
“ไม่เข้าใจที่มึงทำเลยว่ะ ?”
“จะหนีไปก็ได้นะ เสื้อกูเอาไปใส่ได้เลย ของมึงซักอยู่ แต่ถ้าจะนอนที่นี่ เดี๋ยวกูลงไปนอนโซฟา แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยเรียกแท็กซี่กลับก็ได้” ผมมองหน้ามันแล้วลุกขึ้นช้าๆ เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของมันแล้วหยิบเสื้อยืดมาตัวหนึ่ง ก่อนจะปาใส่หน้ามันอย่างแรงจนมันล้มกลับไปอีกรอบ ก่อนที่ผมจะพุ่งเข้าไปแล้วใช้กุญแจมือล็อกมือมันไว้กับเตียงแทน
“เอส…” เขามองหน้าผม “อะไรเนี่ย ?”
“อย่ามาคิดว่ามีบทบาทกับกู…กูไม่ใช่คนถูกกระทำ แต่กูเป็นผู้กระทำ มึงต่างหากที่เป็นเหยื่อของกู”
ไม่ใช่แค่มันหรอก…ผมนี่แหละที่แอบชอบมันมานานแล้ว ที่ทำตัวสนิท เข้าใกล้ทุกครั้งก็เพราะแบบนี้ ยิ่งตอนไปเข้าค่ายแล้วต้องอยู่ใกล้ๆ มันนั่นแหละความสุข แต่ไม่ยักกะคิด…ว่าอยู่ๆ มันจะมาทำแบบนี้ ผิดคาดนิดหน่อย แต่ก็ต้องตามน้ำไป เพราะว่าไม่ได้ผิดหวังในตัวของเขาสักเท่าไหร่ ผมเดินเข้าไปบีบคางของเขาแล้วเชยให้ขึ้นมามอง
“ชอบกูมากใช่ป่ะ…งั้นคืนนี้กูไม่เกรงใจนะ”
อีกฝ่ายเองก็มองผมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ แล้วยกแขนอีกข้างขึ้นมา “อีกข้างหนึ่ง…อย่าเหลือไว้สิ”
“ได้เลย…” ผมจัดการ ล็อคมือเขาอีกข้างกับหัวเตียง กระโดดขึ้นเตียงแล้วคร่อมร่างของเขาเอาไว้ รูดซิปกางเกงลงแล้ว คว้าเอาแก่นกายที่มีอารมณ์เต็มที่ขึ้นมาชักอยู่ตรงหน้าเข้า
“ใหญ่จังเลย…” เขาพูดแล้วยิ้ม
“ไม่ต้องพูด…อ้าปากสิ”
เขาทำตามอย่างว่าง่าย ผมรับจีบแก่นกายฟาดไปที่แก้มของเขาเบาๆ แล้ววาดไปรอบๆ ใบหน้าของเขาที่ทำหน้าพริ้มอย่างพึงใจ ก่อนจะจับมัดจรดเข้าที่ปากของเนิร์ดทันที ก่อนที่สองมือจะจับราวหัวนอน แล้วกระแทกแก่นกายเข้าไปอย่างระรัว โดยที่เนิร์ดเองก็ดูดสู้อย่างไม่เกรงเช่นกัน
(เพื่อน) ประสบการณ์เกย์ ฝึกงาน
(เพื่อน) ประสบการณ์เกย์ ฝึกงาน