เรื่องเสียวเกย์ เล่าประสบการณ์เรื่องเสียวชายรักชาย เรื่องเล่าgay เรื่องเล่าgayจากทางบ้านบอกเล่าประสบการณ์ชายรักชายในมุมมองที่ต่างออกไป แหล่งรวมเรื่องเสียวเกย์ที่นี่ที่เดียว

เด็กเกเรหลงทาง

               เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผมเอง ผมจะเป็นใครคงไม่ต้องแนะนำตัวหรอกครับ แค่ให้รู้ว่าโชคชะตามันโคตรจะห่วย แตกและเล่นตลกสุดๆ เพราะว่าร้านขายส่งพวกเหล้าเบียร์ประจำหมู่บ้านไกลปืนเที่ยงที่พ่อจ้างคนดูแลไว้เขากลับป่วยกะทันหัน แถมดันเป็นคนงานที่รู้งานทุกๆ อย่างอีกด้วย งานนี้พ่อเลยวานกึ่งบังคับสุดๆ ให้ผมมาดูแลเรื่องบัญชีของร้านแทนจนกว่าคนงานคนนั้นจะหายดี แต่ให้ตายเถอะ ดันป่วยหนักจนนอนเป็นผัก…นานแค่ไหนกันล่ะ ?

               พ่อเอาเงินสูงลิบมาล่อให้ผมจำเป็นต้องขับรถออกจากเมืองหลวงที่แสนศิวิไลซ์มาที่บ้านนอกคอกหน้าแห่งนี้ ร้านขายส่งของพ่อเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ ทำรายได้ค่อนข้างดี แต่มันเหมือนจะไม่คุ้มกับค่าจ้างที่ให้ผมมาอยู่ดีนั่นแหละ เหมือนพ่อเองก็ไม่ได้อยากปิดร้าน สุดท้ายเลยหวังกำไรนิดๆ หน่อย เพื่อให้ร้านมันเปิดต่อไปได้ ซึ่งสำหรับผมแล้วเงินค่าจ้างวันละพันมันก็มากอยู่หรอก แต่ที่นี่ห้างก็ไกล ไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาเลย หันไปทางไหนก็เจอแต่ทุ่งนา และวิถีชีวิตชาวบ้าน เปล่านะ ผมไม่ได้บูลลี่ แต่ผมรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ตัวผมเลยต่างหาก แต่ก็นะ…อดทนไปสักเดือนก็ได้ไอโฟนแล้ว งานนี้มันก็ต้องยอมแลก

               หน้าที่เปิดร้านเป็นของคนงาน ส่วนปิดร้านและเคลียร์บิลรายวันเป็นหน้าที่ของผม ราวสี่ทุ่มของคืนหนึ่ง ผมเปิดประตูบานเลื่อนไว้หนึ่งบานตอนที่กำลังคิดบัญชีรายวัน บรรยากาศมันก็สงบดี จนกระทั่งจู่ๆ มีเสียงวิ่งซอยเท้าเข้ามาใกล้ ทันทีที่ผมหันไปก็เห็นว่าเป็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง อายุน่าจะสักสิบหกสิบเจ็ดไม่เกินนี้ เสื้อผ้าก็พื้นๆ ผิวสีแทน ใบหน้าคมคาย ก็นับว่ามันหล่อดี แต่มันกลับวิ่งหืดหอบแล้วมานั่งลงที่หลังลังเบียร์ในร้านผม

               “มึงเป็นใครเนี่ย ?” ผมตะโกนถามด้วยความตกใจ “จะมาปล้นกูเหรอ ?”

               แต่อีกฝ่ายหันมาแล้วเอามือขึ้นทำท่าจุ๊ๆ ก่อนที่ผมจะเงียบลง ปืนสั้นในลิ้นชักของผมพร้อมลั่นไกตลอดเวลา แต่ผมก็ไม่ได้หยิบมันขึ้นมา เพราะว่าเขาชิงพูดขึ้นมาก่อน

               “พี่ผมขอหลบก่อนแป๊บนึง อย่าให้พ่อผมเห็นนะ” แรกๆ ก็คิดว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาและท่าทางของเขานั้นบ่งบอกว่ากลัวจริงๆ “ผมแค่นั่งรถไปกับเพื่อน ผมไม่รู้ว่ามันไปเอาของ ตำรวจมาคุยถึงบ้านเลย พอพ่อรู้ว่าผมไปยุ่งกับพวกนั้นพ่อก็ไล่ตีผม ผมเลยหนีมา ผมขอหลบก่อนนะพี่” เขายกมือไหว้ผมปลกๆ แววตาเหมือนจะร้องไห้ เนื้อตัวสั่นระริก เขาไม่ได้โกหก

               “ของ ?”

               “มันให้ผมขับรถพามันไปเอายาบ้าครับ” เขาบอก “แต่พ่อก็บอกตำรวจไปแล้ว พอตำรวจไปพ่อก็ทำร้ายผม”

               โอเค…ผมเข้าใจ ถึงจะไม่ทั้งหมดก็เหอะ และผมก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดที่จะไม่ให้เขาหลบด้วย พอสังเกตแล้วแขนของเขาเต็มไปด้วยรอยช้ำ ที่มุมปากก็ด้วย ปากเขาแตก ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ผมไม่ได้กลัวเขาในช่วงเวลาสั้นๆ แต่กลับถามเขาออกไปว่า “คืนนี้นอนด้วยกันได้นะ”

               ท้ายที่สุด ผมก็ปิดร้าน แล้วให้เขาเข้าไปอาบน้ำในห้องผมเสียอย่างนั้น  แล้วก็เอาเสื้อตัวเองให้เขาใส่ สุดท้าย เขาก็ขอนอนที่โซฟาในห้องนอนของผมจนกระทั่งเช้า ตอนที่ผมตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเขาแล้ว เห็นแค่กระดาษโพสต์อิทเขียนคำขอบคุณเอาไว้ คิดว่าเขาคงจะออกไปตอนที่คนงานมาเปิดร้านนั่นแหละ แต่พอสายๆ ในวันเดียวกัน เขาก็กลับมาหาผม พร้อมกับ…มาขอสมัครงานที่ร้าน

               ผมก็รับสมัครนะ…โดยรวมก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ อาจเพราะว่าถูกชะตาไอ้เด็กนี่ไม่น้อย หรือว่าถูกใจก็ไม่น่าจะแปลก เขาชื่อว่า “ปอ” ทันทีที่มาสมัครงานที่ร้าน เขาก็ทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ถึงไหนถึงกัน เขาอายุ 16 เรียนจบม.3 ก็ไม่ได้เรียนต่อ แล้วก็ไม่อยากทำไร่ทำนากับพ่อ ผมเลยยินดีที่เขาจะมาทำงานด้วย แถมพ่อผมก็ไม่ได้ว่าอะไร พ่อของปอมาหาผมครั้งหนึ่ง ผมก็อธิบายทุกๆ อย่างให้อีกฝ่ายฟัง จนเขาไว้ใจฝากลูกชายไว้กับผม ซึ่งจากการทำงานด้วยกัน ผมก็รู้ว่าเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพวกยาเสพติดจริงๆ เรื่องคืนนั้นเขาไม่ได้โกหก เขาไม่ดื่มกระทั่งเบียร์ บุหรี่ก็ไม่สูบ ต่างจากผมโดยสิ้นเชิง

               เราทำงานด้วยกันจนเกือบครบเดือน กระทั่งวันหนึ่ง แฟนเก่าของผมที่เลิกกันไปเมื่อหลายเดือนก่อนมาหาผม พอรู้ว่ามาที่นี่เขาก็มาง้อ ทั้งๆ ที่เขาเป็นเป็นคนนอกใจผมไปหาคนอื่น เราทะเลาะกันใหญ่โตอีกครั้ง กระทั่งผมเอาปืนมาขู่ให้เขากลับไปและตัดขาดจากกัน ผมเปย์เขาหมดไปตั้งเยอะ เพราะคิดว่ารักเลยยอมให้ สุดท้ายก็แค่คนที่มาอาศัยเงินผมโดยไม่ได้รักผมเลยด้วยซ้ำ…ไอ้ผู้ชายเฮงซวย

               คืนวันเดียวกัน หลังถึงเวลาใกล้ปิดร้าน ผมก็จิบเบียร์พร้อมกับทำบัญชีไปด้วย ปอเป็นคนเดินเข้ามาหาผมแล้วนั่งลงตรงหน้า

               “หัวหน้าโอเคไหมเนี่ย ?” หน้าตาบ้านๆ และแววตาใส่ซื่อถามขึ้นมาแบบไม่เสแสร้ง เขาเรียกผมว่าหัวหน้า ซึ่งมันก็แอบเขินหน่อยๆ ที่ผ่านมาใช้ชีวิตสะเปะสะปะมาตลอด ไม่คิดว่าจะมีคนให้ความเคารพ

               “ไม่โอเค…” ผมตอบตรงๆ “อยากหาเพื่อนแดกเบียร์ แต่มึงก็ไม่แดก กลับบ้านไปเหอะ”

               “ผมนั่งกับหัวหน้าได้นะ จนกว่าหัวหน้าจะดีขึ้น”

               “คบกันมาสี่ปี แต่เสือกนอกใจไปเอากับเพื่อนตัวเอง คิดว่านานแค่ไหนกูจะดีขึ้น ถ้าจะนั่งอยู่ตรงนี้ มึงคงได้นั่งอีกเป็นเดือน”

               ปอหัวเราะแห้งๆ “ผมก็ทำงานกับหัวหน้าอยู่แล้วนี่ครับ”

               “งั้นกูขอกอดที…” ผมยอมรับว่าผมเมา และยอมรับว่าถูกใจไอ้ปอไม่น้อย แต่ที่เสียใจไม่ใช่เพราะว่าห่วงหาแฟนเก่า แต่เสียใจที่มันยังกล้ากลับมาย้ำเตือนความโง่ให้ผมอีกครั้งต่างหาก ปอยืนขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาผม ก่อนที่เราจะสวมกอดกันอยู่นานเกือบนาที…หัวใจผมเต้นแรง แรงมากๆ จนความเมาและความรู้สึกบางอย่างในใจจะทำให้ผมเผลอดึงหน้าปอเข้ามาจูบ เขาไม่ได้ปฏิเสธ กระทั่งผมถอนริมฝีปากออกมา เขายืนมองผมด้วยแววตาราบเรียบ แล้วขอตัวกลับบ้านไป…ก่อนที่เขาจะไม่มาทำงานอีกเลย

               อาทิตย์ต่อมา ผมไปที่บ้านของปอ เพื่อเอาเงินเดือนที่ค้างไว้ไปจ่ายให้เขา พ่อเขาไม่พูดอะไรสักคำเลยกับผม และผมก็ไม่ได้ถามอะไรอีกด้วย ผมเห็นรองเท้าของเขาถอดไว้หน้าบ้าน เขาคงอยู่ข้างในนั้น แต่คงไม่อยากออกมาหาผม ก็คงไม่แปลก มันไม่มีผู้ชายที่ไหนชอบใจที่โดนผู้ชายด้วยกันที่แก่กว่าเกือบ10ปีมาจูบหรอกน่า แถมต่างจังหวัดแบบนี้ คงเป็นเรื่องยากเลยด้วยซ้ำที่จะเปิดรับ ซึ่งผมก็เข้าใจ

               ผมทำงานที่นี่รวมๆ แล้วก็เกือบสองเดือน จนวันสุดท้ายที่ต้องกลับกรุงเทพแล้ว มันก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน ผมสนิทกับปอมากที่สุดในบรรดาคนงาน ทำอะไรด้วยกันตั้งเยอะ แต่พอวันจะไป ใจหายที่ไม่ได้แม้แต่บอกลา ผมคิดว่าเราสองคนก็คงแค่การผ่านมาแล้วผ่านไปเท่านั้นแหละ ผมขับรถผ่านถนนหมู่บ้านไปเรื่อยๆ แต่ใครมันจะไปคิดล่ะ ว่าฉากในหนังมันจะเกิดขึ้นจริง…เขาปั่นจักรยานตามผมมา ทางลูกรังฝุ่นคลุ้ง เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยฝุ่นสีแดงเถือก ผมรีบหยุดรถแล้วเลื่อนกระจกลง เขามาจอดข้างๆ ประตู เหนื่อยหอบเหมือนจะตายเสียให้ตาย ผมปั้นหน้ายิ้ม…

               “ไปแล้วนะ…เรื่องคืนนั้นก็ลืมๆ มันไปเหอะ คิดว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นก็ได้”

               “ไม่กลับ…มาแล้วเหรอ ?”

               “อื้อ” ผมพยักหน้า “ลุงแหวงมาทำงานแล้ว นี่ก็คงกลับไปอยู่กรุงเทพเหมือนเดิม”

               “อยู่ต่อได้ไหม ?”

               “เพื่อ ?” ผมพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน ให้ตายเถอะ…ผมชอบไอ้หมอนี่ชะมัดเลย

               “ผมยังไม่ได้พาหัวหน้าไปดูนาผมเลย ไม่ได้พาหัวหน้าไปร้านกาแฟท้ายทุ่ง ไม่ได้…”

               “ไหนลองว่าต่อไป…”

               “ไม่ได้บอกหัวหน้าเลยว่าผม…ลืมจูบของหัวหน้าไม่ได้”

               ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผมและปอมานั่งยู่ที่เถียงหน้าของที่บ้านเขา ข้าวกำลังตั้งท้องสวยเลย นั่งมานั่งคุยอะไรกันมากมาย เหมือนกับว่าเราต่างก็คิดถึงช่วงเวลาที่หายจากกันไป

               “ผมรู้สึกแย่…ผมคิดว่าหัวหน้าจูบผมเพราะว่าเอาผมไปเป็นตัวแทนของแฟนคนนั้นที่มาง้อ”

               “ไม่คิดว่าจะจูบเพราะเมาเหรอ ?”

               “แบนั้นคงแย่กว่า…เพราะว่ามันไม่ได้เกิดจากความรู้สึกเลย”

               “รู้สึกสิ” ผมยิ้ม “ถ้าไม่รู้สึกตั้งแต่แรก…คิดว่านี่จะให้เด็กแปลกหน้าแต่งตัวบ้านๆ มานอนในห้องเหรอ ?”

               “รู้สึกว่าอะไร ?”

               “รู้สึกว่าเอ็งหล่อดี” ผมพูดไปตรงๆ “ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมาเจอคนที่ถูกใจที่นี่น่ะ”

               “เด็กบ้านๆ แบบผมเนี่ยนะ…มีอะไรให้หัวหน้าถูกใจ”

               “แค่ชอบน่ะ…มันไม่ได้ยากอะไรนี่นา แต่พอยิ่งรู้จักกันนานก็ยิ่งรู้สึกชอบมากขึ้น แล้วเป็นบ้าอะไร อยู่ๆ ก็หายไป ไม่บอกบอกมันตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าบอกตั้งแต่ตอนนั้นก็คงมีเวลาทำอะไรด้วยกันตั้งเยอะเลย”

               “ทำอะไรครับ ?”

               ผมยิ้ม “คิดว่ามันคือการทำอะไรล่ะ ?” ผมดึงเขาเข้ามาจูบอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เขาไม่ปฏิเสธที่จะถูกผมจูบ และเขาก็จูบตอบกลับมาเหมือนกัน  “เฮ้ย…รู้เปล่าว่าเล่นกับไฟน่ะ ?”

               ปอยิ้ม “ถ้าไฟไม่กลับกรุงเทพ…ผมก็ว่างเล่นครับหัวหน้า แต่ถ้าไฟจะไปก็ได้แค่จูบนะ” เขาพูดแล้วลุกขึ้น กลายเป็นผมเองที่ดึงรั้งเขาไว้

               “ไป…” ผมบอก “ไปห้องพี่…กันไหม ?”

               เขาหันมามอง…ยิ้ม

               ทันทีที่บานประตูปิดลง ผมดันร่างเขาชนกับบานประตูแล้วพรมจูบเขาอย่างเร่าร้อน สองมือลูบไล้อย่างไร้ซึ่งความเขินอาย ก่อนจะช่วยถอดเสื้อออกให้เขา ร่างกายของเขาไม่ได้สูงใหญ่นัก แต่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เราต่างจูบกันอย่างดูดดื่มและเนิ่นนาน ก่อนที่ผมจะไล่ริมฝีปากลงมาที่ซอกคอของเขา ไล้ปลายลิ้นลงมาที่กล้าหน้าท้องขณะที่ปลดกางเกงของเขาออก ทันทีที่กางเกงเลื่อนลง ความเป็นชายที่เต็มไปด้วยความต้องการก็แข็งขืนตั้งตรง ผมคุกเข่าลง แล้วรูดรั้งแก่นกายนั้นทันที พร้อมทั้งพรมจูบหน้าท้องอย่างต่อเนื่อง เสียงครางดังจากปากของ”ปอ”อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ผมจะครอบริมฝีปากอมแก่นกายนั้นทันที พร้อมกันที่ปอค่อยๆ แอ่นร่างกายเข้ามาสวนจังหวะของผม

               “อื๊อ…อาห์ หัวหน้าครับ อือ…เสียวครับ เสียว โอยยยย” เขาลูบไล้เส้นผมของผมอย่างแผ่วเบา ต่างจากผมที่ดูดและดุนความเป็นชายของเขาอย่างรุนแรงและหิวกระหาย โอบกอดร่างกายของเขาไว้ตอนที่ได้มอบความสุขให้เขา ยิ่งนานไป จังหวะกระแทกเอวเข้ามาก็ยิ่งถี่รัวมากขึ้น เสียง จ๊วบ จ๊าบ หยาบโลนดังขึ้นภายในห้องที่ผมเปิดเพลงคลอเอาไว้

               ผมผละริมฝีปากออกแล้วเงยหน้ามองเขา “รู้สึกดีใช่ไหม ?”

               “ครับ…ฮื่ออ…ผมเพิ่งเคยทำแบบนี้ครั้งแรกเลย รู้สึกดีมากครับ”

               “งั้นเหรอ ?” ผมยืนขึ้นแล้วจูบเขาอีกครั้ง หมุนร่างกายก่อนจะผลักเขาไปทางเตียงกระทั่งทิ้งตัวลงนอนกางแขนขาออก ผมขึ้นคร่อมร่างเขา แล้วรับความเป็นชายเข้ามาในปากอีกครั้งหนึ่ง ปอดิ้นด้วยความซ่านเสียว สองมือจิกผ้าปูที่นอนจนย่นยับ  หน้าท้องเกร็งแน่น กล้ามท้องเด่นชัด ผมยิ่งลูบไล้ยิ่งรู้สึกว่าความต้องการเพิ่มเป็นทบทวี ความเป็นชายที่โดนอมอยู่นั้นแข็งและขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิม มีแต่เสียงลมหายใจ ฟืด ฟาด ดังขึ้นในตอนนี้

               “หัวหน้าครับ อาห์…หัวหน้า อูยยยย”

                ผมค่อยๆ เลื้อยร่างขึ้นไปจูบกับเขาอีกครั้ง ก่อนจะพลิกตัวสลับตำแหน่งกัน แล้วค่อยๆ แยกขาออก “มาสิ…”

               เขาดูประหม่า นี่คือครั้งแรกของเขา แต่เขาก็ทำได้ดี ความเป็นชายที่แข็งขืนถูกชโลมด้วยเจลหล่อลื่น ก่อนจะค่อยๆ ดันเข้ามาที่ช่องทางเข้า เป็นครั้งแรกที่ดูเก้ๆ กังๆ ทว่าพอร่างกายของเราสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว จังหวะการขยับไหวส่วนเอวของเขาก็ทำได้ดี

               ปอกระแทกร่างเข้ามาด้วยจังหวะถี่รัว ใบหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่าน มีแต่เสียงเรียก “หัวหน้า” กับเสียงสูดปากผ่านไรฟันอยู่ตลอดเวลา

               “อาห์ เสียวครับ…ข้างในตัวของหัวหน้า แน่น…แน่นมากเลย”

               “ของเอ็งใหญ่ต่างหาก อือ…ทำเลย เท่าที่ต้องการ”

               เขาโน้มร่างลงมา ซุกใบหน้าที่ไหล่แล้วโอบกอดผมไว้พร้อมทั้งกระแทกร่างกายเข้ามาถี่รัวกว่าเดิม ผมร่างกายของผมเหมือนจะแหลกสลาย น่าแปลกใจที่เขาบอกว่าเป็นครั้งแรก แต่คนที่เคยผ่านความรักมาแล้วอย่างผมเองยังรู้สึกว่าการกระทำของเขามันสุดยอดมากๆ มือที่โอบแผ่นหลังเขาไว้ลากไล้ไปตามแผ่นหลัง บางจังหวะที่เขากระแทกเข้ามาแรงก็เผลอร้องออกมาพร้อมทั้งข่วนแผ่นหลังเขาบ้างบางจังหวะ

               มือที่สอดมากอดไหล่ของผมเอาไว้ตอนนี้ “ปอ” สอดมันลงไปที่แผ่นหลัง ยกร่างของผมให้ขึ้นมานั่งแล้วกอดเขาเอาไว้ ก่อนที่จะออกแรงกระแทกเข้ามาด้วยท่าทางนั้น เขาจึงค่อยๆ แอ่นตัวไปด้านหลังช้าๆ จนกลายเป็นว่าเราสลับตำแหน่งกัน ปอนอนหงาย ให้ผมที่ตอนนี้กลายมาเป็นตำแหน่งออนทอปส์ค่อยๆ เป็นคนออกแรงอยู่บนร่างกายของเขาแทน

               “อะ…อาห์ ละ…ลึก” ร่างกายของผมนั่งอยู่บนความเป็นชายของเขาที่สวมสอดเข้ามาจนลึกสุดความยาว ลูบไล้ร่างกายตัวเองด้วยอารมณ์พุ่งพล่าน ต่างคนต่างเหงื่อโซมกาย แต่กลับเต็มไปด้วยอารมณ์ที่กรุ่นกลิ่นความรู้สึก ผมค่อยๆ ขยับขย่มร่างกายตัวเองช้าๆ ก่อนจะขยับเพียงส่วนเอวหมุนวนอยู่บนเรือนร่างของเขา

               “โอ…โอย หัวหน้าครับ เสียว…เสียวครับ” ปอยื่นมือมาสัมผัสแก่นกายของผมที่ยังคงตื่นตัว ในจังหวะที่ผมขย่มขึ้นลงบนร่างกายเขา มือนั้นก็กำดุ้นแข็งของผมแล้วรูดรั้งตามจังหวะไปด้วย ยิ่งเพิ่มความสุขเป็นทบเท่าทวี

               “อาห์…หัวหน้า ผมจะเสร็จแล้ว”

               “อ๊ะ อ๊ะ อ๊า…พี่ก็…จะเสร็จแล้ว” ยิ่งพูดผมยิ่งเร่งจังหวะการขย่ม “พะ…พร้อมกันนะ”

               เราต่างก็เร่งจังหวะกันและกันทั้งคู่ จนในที่สุด ความสุขของเราพุ่งทะยานจนถึงจุดสูงสุด น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งทะทานทั้งจากส่วนลึกของร่างกายและจากด้านหน้าของตัวเองจนเปรอะเปื้อนไปทั่วมือของปอและหน้าท้องของเขา ผมขย่มอยู่สองสามครั้งจนรู้สึกว่าเขาเสียวจนดิ้นพล่านไปมาจึงค่อยๆ หยุดแล้วค้างเอาไว้อย่างนั้นก่อน แล้วจึงค่อยๆ ทอดถอนร่างกายของเราออกจากกัน ผมจึงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดแรง        

               “ผม…ทำได้ดีไหมครับหัวหน้า” เขาหันมามองผมแล้วถามอย่างเหนื่อยอ่อน

               “ดี” ผมตอบพลางผ่อนลมหายใจแรง “โกหกหรือเปล่า…ว่า ครั้งแรก”

               เขาส่ายหน้า “ไม่ครับ ครั้งแรกจริงๆ”

               “เลิกเรียกว่าหัวหน้าเถอะ…แสลงหู” เขายิ้ม แล้วยื่นมือมาหาผม สองเราสอดประสานมือกันแล้วเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้นด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเขาก็หายไปอีกแล้ว ผมดีดตัวขึ้นด้วยความตกใจ กระทั่งเสียงฝักบัวในห้องน้ำดังขึ้น ทำให้ผมเบาใจว่าครั้งนี้เขาไม่ได้หายไปไหน

               ในตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น…พ่อของผมโทรมา คงถามว่าจะกลับวันไหน

               ผมว่า…ผมรู้แล้วว่าจะตอบพ่อยังไงดี

จบ