เรื่องเสียวเกย์ เล่าประสบการณ์เรื่องเสียวชายรักชาย เรื่องเล่าgay เรื่องเล่าgayจากทางบ้านบอกเล่าประสบการณ์ชายรักชายในมุมมองที่ต่างออกไป แหล่งรวมเรื่องเสียวเกย์ที่นี่ที่เดียว

เรื่องเสียวเกย์ เพราะรักเลยยอมสลับ ตอนแรก

               ผมชื่อ “เปรม” ถ้าทุกๆ คนเคยอ่านเรื่องราวที่ผมเล่าไปในเรื่อง “นัดยิ้มจนได้เรื่อง” นั่นแหละครับ ผมเอง ถ้ายังไม่เคยฟังเรื่องราวเก่าๆ ของผมก็ลองไปหาอ่านได้นะครับ ส่วนถ้าใครยังที่ไม่ได้รู้เรื่องของผม ผมก็ขอเกริ่นเรื่องราวของผมไว้สักเล็กน้อยครับ พูดบ่อยก็อายตัวเอง ผมเป็นเสือผู้หญิงมาตั้งแต่มัธยมครับ พอเริ่มขึ้นม.4 ประสบการณ์จากครั้งแรกก็ลามไปเป็นสิบครั้ง หลายสิบครั้ง ผมกลายเป็นคนรักสนุก มีผู้หญิงมากมายทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องเข้ามาหาเพื่อหวังมีอะไรกับผมทั้งนั้น แบบรักสนุกและไม่ผูกพัน นั่นทำให้กว่าจะจบม.6 ผมก็ได้ฟันสาวๆ ไปแล้วเกือบร้อยคน พูดได้ว่าเรื่องช่ำชองวิชาบนเตียงผมนี่เกรด 4 เลยละครับ

            พอผมเริ่มขึ้นมหาลัย ผมก็คิดว่า อะไรๆ ก็คงจะเหมือนเดิมครับ คิดว่าจะมีสาวๆ มาให้ฟัน แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ ที่นี่มีคนหล่อกว่าผมมากมาย แล้วด้วยความที่คนเราพอโตขึ้น ก็มักจะอยากมีความรักที่แน่นอนและมั่นคง อารมณ์แบบว่าอยากจะจริงจังกับความรักแล้ว นั่นทำให้ไอ้เปรมคนนี้ไม่มีอะไรมาแก้ขัดเลยครับ หลังจากการสาวช่วยตัวเองไปเรื่อยๆ ก็ได้เจอกับแอปนัดยิ้มครับ ที่นั่นผมได้เจอกับสาวที่ชื่อว่ามิว เราเป็นเพื่อนนอนกันหลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งหนึ่ง เธอดันชวนผมหมู่ โดยมีชายมาร่วมอีกคนหนึ่ง ด้วยความรักสนุกและอยากลอง ผมเลยตกลง ปรากฏว่าไอ้คนที่เข้ามาแจมดันเป็นเพื่อนร่วมสาขานั่นเองครับ มันชื่อว่า “ไอ้บอม” เด็กหนุ่มแง่น เงอะงะเงียบขรึม เพื่อนน้อย ไม่ค่อยจะคุยกันเท่าไหร่

            ครั้งนั้นทำให้ผมได้รู้ว่า ผมดันชอบการที่ไอ้บอมมาอมให้ผม รวมทั้งยอมให้ผมมีอะไรด้วยครั้งแรกของมัน หลังจากจบค่ำคืนนั้น เราสนิทสนมกันมากขึ้น แล้วก็กลายเป็นว่าผมรู้สึกชอบมันเข้าจริงๆ ทำให้ผมตัดสินใจเลิกที่จะนัดกับมิว เพราะตอนนี้ผมรู้แล้วว่าจริงๆ ผมชอบอะไร เมื่อเจอสิ่งที่ต้องการ ที่สำคัญ ผมไม่ได้มองว่าสิ่งที่ผมเป็นมันฉาบฉวย แล้วไม่ได้มองว่าหลายสิบครั้งที่ผ่านมามันเป็นความเจ้าชู้ของผม เพราะใครๆ ก็ต่างเข้ามาเพื่อแลกคืนวันชั่วคราว ผมเลยตัดสินใจที่จะคบกับไอ้บอมอย่างเปิดเผย แล้วก็ไม่ปิดบังตัวเองอีกต่อไป เรียกได้ว่าทำเอาบรรดาสาวๆ ที่เคยมีอะไรกับผมงงเป็นไก่ตาแตกกันไปทุกรายเลยละครับ แต่นั่นมันก็คือเรื่องจริง ผมหนีมันไม่ได้หรอกครับ ผมพยายามแล้ว ท้ายที่สุด ก็ชวนไอ้บอมย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน ช่วยหารกันในค่าใช้จ่ายต่างๆ และพ่อแม่ผมก็รู้เรื่องนี้แล้วด้วย ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะไอ้บอมมันเรียนเก่งมาก เรียกว่าฉุดผมจากนรกเลยก็ว่าได้ครับ…

            …ซึ่งเมื่อคืน เราก็จัดกันหนักจนเพิ่งตื่นเอาเก้าโมงของวันหยุดนี้นี่เอง

            “อรุณสวัสดิ์” ผมพูด เมื่อตอนเห็นว่าไอ้บอมที่นอนหนุนแขนผมจนเหน็บกินทั้งคืน ตื่นขึ้นมาแล้ว

            “ครับ…” มันยิ้ม แล้วจูบตัวผมไปทีหนึ่ง

            เราใช้ชีวิตร่วมกันแบบนี้มาได้สักเดือนหนึ่งแล้ว ไม่มีใครรับหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่ง ผลัดกันช่วยเหลือเท่าที่ซับพอร์ตกันได้ ผมมองว่าผมมีความสุขมากๆ เลย มันไม่ได้ร่ำรวยไปมากกว่าผม แล้วก็ไม่ได้มาพึ่งพาผม แถมยังช่วยเหลือในเรื่องการใช้จ่ายด้วย เรียกได้ว่าการมีมันเข้ามาในชีวิตนั้น ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นด้วยซ้ำ

            วันนี้เราออกไปเที่ยวด้วยกันจนหมดวัน ความสัมพันธ์ของเราก็เป็นแบบนี้ เหมือนเพื่อนกันมากกว่าแฟน แถมยังแมนๆ พอๆ กันอีกด้วย มันเลยรู้สึกชิว เป็นตัวเอง และไม่ต้องกดดันอะไรเลยสักอย่าง จนตอนเย็น เราก็มาใช้เวลาร่วมกัน นั่งดูหนังด้วยกันจนดึกดื่น แต่เรื่องมันอยู่ตรงนี้แหละครับ…ตอนที่หนังจบแล้ว ไอ้เวรบอมที่มันนอนหนุนตักผมอยู่ มันเอื้อมมือมาสอดเข้าที่ขากางเกงของผม จนผมต้องตะปบมือมันไว้

            “ไอ้บอม…”

            “แฮ่…” มันหัวเราะแห้งๆ “กูอยากอะ…”

            “ทุกวันมึงจะไม่ไหวเอานะ…” ผมว่า “เมื่อคืนก็ก็กระแทกหนักขนาดนั้น ยังมีหน้ามาอยากอีก”

            “เอ๊า…ไม่ยาก งั้นวันนี้ก็ตากูทำมึงบ้างดิ”

            “ม่ายยย” ผมปฏิเสธเสียงแข็ง “มึงอย่ามากลับลำกู”

            “ไม่ได้อยากกลับลำ…แต่ก็อยากให้มึงรู้สึกดีเหมือนที่กูรู้สึกบ้างอะ” ปากก็พูด มือมันก็ค่อยๆ สอดเข้ามาในขากางเกงจนคว้าเอาน้องชายที่กำลังหลับใหลของผมเอาไว้ได้ แล้วบีบนวดมันจนแข็งปั๋ง “กลัวเจ็บเหรอ ?”

            “คง…คงงั้น” ผมตอบพลางใจเต้นตึกตัก

            “กูไม่เคยเจ็บเลยนะ…” มันค่อยๆ ขยับตัวมานั่งข้างๆ ผมแล้วดึงผมเข้าไปหอมแก้ม “กูไม่ทำให้มึงเจ็บหรอก” กลายเป็นว่าอยู่ดีๆ มันก็ดึงผมเข้าไปจูบเสียง่ายๆ แล้วไอ้ผมก็ดันยอมเสียอย่างงั้น จากตอนแรกเป็นคนทำมาโดยตลอดวันนี้ถูกขอทำบ้างมันก็จะรู้สึกแปลกๆ หน่อย แต่สุดท้าย…ความพึงพอใจที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของเราสองคน ผมยอม เพราะผมอยากจะให้มันมีความสุข อยากให้มันรู้สึกดีที่คบกับผม ไม่ว่าอะไรผมก็ยอมได้ทั้งนั้นแหละ

            “ถ้ากูไม่รัก…กูไม่ยอมมึงหรอกนะไอ้บอม”

            “ถ้าไม่โอเคก็ไม่เป็นไร กูหยอก…นอนก็ได้”

            “ไม่เป็นไร” ผมตอบ… “กูทำได้ ตะ…แต่ เบาๆ กับกูหน่อยนะ”

            “ได้คร้าบบบบบบบบบ” มันพูดอย่างลิงโลกก่อนจะพาผมเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ แต่แล้วจู่ๆ ในตอนที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ มันก็กดบ่าผมลงกับชักโครกที่ปิดฝาลงแล้ว เงยหน้ามองผมแล้วยิ้ม “ห้องน้ำคอนโดมึงมีอ่าง…เราจะไม่ลองใช้หน่อยเหรอ ?”

            “ตามใจมึง…” ผมรู้ว่ามันหมายถึงอะไร พอผมตอบรับ มันก็รีบถอดเสื้อผ้าออกแล้วก้มหน้าลงมาจูบกับผมทันที พร้อมกับทรุดตัวลงไปคุกเข่า แล้วคว้าแก่นกายของผมที่แข็งขืนขึ้นมาจับเข้าปากอมให้อย่างรวดเร็ว

            จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบบบ…

            “อึ๊ก….” ผมเกร็งตัวทุกครั้ง เวลาที่ต้องนั่งให้มันทำแบบนี้ เพราะว่าไอ้บอมมันทำได้ดีเหลือเกิน เกินกว่าที่ผมทำอีกละมั้ง มันดูดดุนแก่นกายของผมตั้งแต่โคนจรดส่วนปลาย เน้นดูดส่วนหัวในขณะที่มือก็ชักอย่างต่อเนื่องแล้วบิดไปมา ก้มลงอมสุด ขึ้นสุด สลับกับเลียหัวนม แล้วก้มลงไปอมอีก สองมือค่อยๆ ลูบไล้ร่างกายของผมไปมา จนร่างกายที่เปียกหมาดๆ เริ่มสั่นระริกเพราะความเกร็ง

            ไม่นาน มันก็ขึ้นมากอดคอแล้วนั่งตักผม ก่อนจะจูบกันอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ร่างกายผมตอนนี้เริ่มสับสนว่าเป็นเพราะหยดน้ำที่ยังไม่แห้งดี หรือว่าเพราะเหงื่อกันแน่ที่ทำให้ร่างกายเปียกปอน  มันลุกขึ้นแล้วจับผมไปยืนหันหน้าเข้าอ่างล้างหน้า ผลักผมให้โน้มตัวไปด้านหน้าเบาๆ แล้วเล้าโลมผมจากด้านหลัง ในจังหวะเดียวกันที่แก่นกายของมันค่อยๆ สวมสอดมาที่หว่างขาสองข้างของผมที่ยืนชิดกันแน่น มันกระแทกเอวเข้ามาเบาๆ ในจังหวะที่ผมเกร็งสองขาเพื่อให้มันฟิตมากพอที่เขาจะรู้สึกดี สองมือเอื้อมมาลูบไล้หน้าท้อง แล้วพรมจูบที่แผ่นหลังผมจนทั่ว ก่อนที่มือของเขาจะลูบต่ำลงมาเรื่อยๆ แล้วแหวกขาสองข้างของผมให้แยกออก

            “อืม…น่ารักจังเลย”

            “ไอ้เชี่ย…ใครเขาใช้คำนั้นวะ ?” ผมหันไปด่ามัน เมื่อมันชมว่าบั้นท้ายผมน่ารัก ก่อนที่มันจะแยกหนั่นเนื้อออกแล้วคุกเข่าลงสอดหน้าเข้ามาลงปลายลิ้นที่ช่องทางด้านหลังทันที

            “อ๊ะ อ๊า…ไอ้ ไอ้บอม…กู…” ผมกำหมัดแน่น หน้าท้องเกร็งไปหมด ร่างกายชาตั้งแต่หัวจรดเท้า “เสียวววว”

            “นั่นแหละดี…”