เรื่องเสียวเกย์ เล่าประสบการณ์เรื่องเสียวชายรักชาย เรื่องเล่าgay เรื่องเล่าgayจากทางบ้านบอกเล่าประสบการณ์ชายรักชายในมุมมองที่ต่างออกไป แหล่งรวมเรื่องเสียวเกย์ที่นี่ที่เดียว

(เพื่อน) เรื่องเสียวเกย์ แคมป์ฝึกเสียว ตอนแรก

               ผมไม่ได้ตั้งใจมาเรียนที่นี่ตั้งแต่แรก ในตอนที่ผมกำลังจะเรียนจบม.3 วิทยาลัยอาชีวะศึกษาแห่งนี้มาแนะแนวในช่วงเวลาที่ผมกำลังซ้อมแข่งทีมตะกร้ออยู่ ซึ่งสำหรับผม มันคือการแข่งขันครั้งสุดท้ายก่อนจบ ผมอยากจะคว้าเหรียญทองระดับภาคมาให้โรงเรียน เพราะว่าตลอด 3 ปีที่เรียนมา ผมทำได้แค่เหรียญทองแดงภาค เลยอยากจะทำอะไรสักอย่างให้เป็นที่น่าจดจำ ปรากฏว่าอาจารย์วิชาการกีฬามาเจอผม เลยเสนอให้ผมมาเรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้ ด้วยโควตาทุนนักกีฬา เรียนฟรีจนจบปวส. แบบไม่ต้องเสียค่าเทอมและค่าชุด ทั้งยังมีหอนอนให้อีกด้วย รวมทั้งจะมีการจ้างโค้ชมาฝึกซ้อมให้อย่างเต็มที่และผลักดันให้เป็นนักกีฬาแบบ 100% 

               แล้วในปีนั้น ผมก็สามารถคว้าเหรียญทองระดับภาคได้สำเร็จ มันคือการแข่งขันที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุด เพราะว่าผมเอาชนะทีมที่เป็นอดีตแชมป์ อย่างโรงเรียนอีกแห่งร่วมอำเภอที่ขิงใส่ผมมาตลอด นั่นคือความสะใจเล็กๆ ของผมเหมือนกัน นั่นทำให้ผมจบม.3 อย่างเต็มเกียรติสำหรับตัวเอง แล้วมาเรียนที่วิทยาลัยแห่งใหม่ด้วยสิ่งที่ติดตัวมาด้วยนั่นคือ “แชมป์ตะกร้อรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” แต่สิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็คือ… “ไอ้บี” มือตบอันดับ 1 อดีตแชมป์ 2 ปีซ้อนที่ผมเพิ่งโค่นมันก็มาเรียนที่นี่ด้วย  มากไปกว่าการที่เราต้องร่วมทีมแข่งขันกัน คือเราเขม่นกันมาตลอด 3 ปี ไม่ได้ถึงกับเกลียดกัน แต่มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีที่ค้ำคอ

               เราเองมีท่าทีไม่ค่อยพอใจกันตลอดเวลา จนทำให้การซ้อมในช่วงแรกพังไม่เป็นท่า เพราะว่าเราเป็นตัวตบด้วยกันทั้งคู่ ทำให้เราต้องอยู่ซ้อมด้วยกัน แต่พออยู่ฝั่งเดียวกันก็แย่งกันฟาดจนล้มไม่เป็นท่า ฟาดขากันเองจนแข้งบวม สุดท้าย อาจารย์เลยหักดิบด้วยวิธีที่ผมไม่อยากคิดว่าเขาจะทำ คือการสลับให้มันมาเป็นรูมเมทของผม และบอกด้วยว่า ถ้าหากไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข พวกเราจะได้เป็นตัวสำรอง อาจารย์ย้ำอย่างชัดเจนว่า เราสองคนเก่ง แต่เราไร้ซึ่งน้ำใจนักกีฬา นั่นทำให้เราเจ็บใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ขนาดเตียงสองชั้นที่เราต้องตกลงกันว่าใครจะนอนชั้นบนยังแย่งกันแทบตาย สุดท้าย อาจารย์ก็ยกออก แล้วเอาฟูก 6 ฟุตมาให้แทนแล้วบอกว่า…ให้นอนมันข้างๆ กันนี่แหละ

               ผมแม่งโคตรหัวเสียเลย ไม่คิดว่าจะต้องมานอนเตียงเดียวกับมันแบบนี้ แต่มันก็ดี ผมไม่ยอมให้มันมานอนอยู่ข้างบนผมหรอก ไม่มีทาง ช่วงเดือนแรกๆ เราเลือกที่จะซ้อมอยู่คนละฝั่ง แต่พออาจารย์สั่งให้อยู่ฝั่งเดียวกัน ก็แย่งกันตบอีก จนกระทั่งมีจังหวะหนึ่ง ที่ผมหลับตาขึ้นฟาดเต็มรอบ แล้วมันจะขึ้นโหม่ง หลังเท้าผมฟาดเข้าแก้มมันเต็มๆ จนร่วงลงไปเกือบหมดสติ มันลุกขึ้นมามองหน้าผม แล้วเดินจากไปนั่นคือครั้งแรกที่รู้สึกว่ามันโกรธ…แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกผิดจริงๆ

               มันไม่คุยกับผม ผมก็เสือกปากหนักไม่พูดอะไรกับมัน ไม่กระทั่งขอโทษ กระทั่งตกดึก มันนอนสั่น ผมสัมผัสได้จนต้องตื่น ก่อนจะลุกขึ้นมาแตะตัวมัน ผมตกใจสุดขีด เพราะว่ามันตัวร้อน แก้มที่โดนผมเตะไปบวมเป่งจนผมต้องปลุกมันขึ้นมา

               “บี…บี มึงตื่นดิ๊ มึงตัวร้อน กินยายัง ?”

               “ไม่ต้องมาเสือก” มันยกมือมาปัดมือผมที่เขย่าตัวมัน ขนาดมือยังร้อนผ่าวเลย “กูจะนอน”

               “อย่ากวนส้นตีน ไข้แตกขนาดนี้ลุกขึ้นมากินยา…”

               มันเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะบอกผมว่า “กู…ลุกไม่ไหว”

               นั่นจึงทำให้ผมค่อยๆ พลิกตัวให้มันมานอนหงาย แก้มของมันบวมจริงๆ ผมจับเนื้อตัวมัน ที่ร้อนผ่าวรวมกระทั่งแก้มที่บวมเป่ง “มึง…มึงกินยานะ เดี๋ยวกูไปเอายาให้”

               ผมรีบวิ่งไปยังกล่องยาที่ห้องกลาง แล้วหยิบยามาให้มันกิน ผมประคองร่างขึ้นขึ้นมาในอ้อมแขน แล้วป้อนยาให้มันกินช้าๆ ตัวมันร้อนจนผมกลัวเลยจริงๆ

               “เดี๋ยวกูเช็ดตัวให้นะ…กู ขอโทษ”

               มันพยักหน้าเงียบๆ “ขอโทษ เป็นด้วยเหรอ ?”

               “อย่ากวนตีน เดี๋ยวกูจิ้มแก้มแม่งเลย”

               “พูดซะน่ารักเลยนะ” มันยิ้มนิดๆ แต่ก็ครางออกมาด้วยพิษไข้ จนกระทั่งผมเริ่มเช็ดตัวให้มันช้าๆ ถอดเสื้อมันออก แล้วใช้น้ำเย็นเช็ดตัวมันไปเรื่อยๆ ตั้งแต่แขน ลำตัว คอ หน้าท้อง สิ่งที่ผมเห็นคือรอยแผลเต็มตัวเลย ทั้งแผลเป็น แผลถลอก นั่นทำให้ผมรู้ได้คำเดียวเลยว่ามันพยายามมากจริงๆ ในการฝึกซ้อม

               “น่ารักเชี่ยไรล่ะ ?”

               “เช็ดแค่ตัวพอนะ…อย่าลงไปถึงควย เดี๋ยวมันแข็งแล้วมึงจะอยู่ยาก”

               “สัส…” ผมด่ามันไปทีหนึ่ง แล้วเช็ดตัวให้มันต่อ เช็ดที่ขาลงไปนิดหน่อย โดยเว้นส่วนลำตัวของมันไว้

               “ถ้ากูรู้ว่าให้มึงเตะทีเดียวแล้วมึงจะยอมคุยดีๆ กับกู…กูให้เตะตั้งแต่วันแรกแล้ว”

               “มึงชอบขิงกูอะ…” ผมพูด แต่ก็ยังเช็ดตัวให้มึงอยู่ “มึงเป็นคนเดียวที่กูไม่อยากแพ้เลย แต่ก็แพ้มาตลอดอะ…แล้วจะให้กูรู้สึกยังไงเมื่อต้องมาอยู่ทีมเดียวกับมึง”

               อยู่ๆ มันก็เอมมือมาจับมือผมด้วยมือที่ร้อนผ่าวนั้น “มึงไม่คิดเหรอ…ว่าถ้าเราอยู่ด้วยกัน มึงจะไม่มีวันแพ้กูอีกแล้วอะ”

               ผมนิ่ง…ชะงักไปวูบหนึ่ง

               “กูมาที่นี่เพราะว่าอยากร่วมทีมกับมึง” มันพูดต่อ “ที่ได้ย้ายห้องมานี่ก็เพราะว่ากูเสนออาจารย์เขาไปเอง เพราะกู…แอบชอบมึงมาตั้งแต่ม.1แล้ว”

               “ห๊ะ…”

               “ครูบอกว่ามึงคือนักกีฬาที่เด่นของโรงเรียน กูคือตกหลุมรักมึงตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอเลย แต่มันเหี้ยมากเพราะว่ากูจะเจอมึงแค่ปีละครั้ง เพราะงั้นกูเลยต้องพยายามเพื่อที่จะเก่งขึ้น เพื่อให้ได้เจอมึงในงานแข่งกีฬา น้ำเน่าไหมล่ะ ?”

               “……”

               “นอนเถอะ กูคงไม่เป็นไรแล้ว…แต่ถ้าเกลียดกู ไม่ต้องโวยวายนะ มานอนเถอะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยบอกให้กูย้ายกลับไปห้องเดิม” มันจับมือผมออกแล้วขัยตัวนอนตะแคงในมุมที่หันหลังให้ผมเสมอ ผมนิ่งแล้วคิดหลายๆ อย่างขึ้นมาในหัว ก่อนจะกลับลงไปในบนเตียง

               แล้วขยับไปกอดมันจากด้านหลัง ซุกใบหน้าไปที่คอของมัน แล้วหลับตาลงช้าๆ โดยที่มือของมันจับมือของผมที่กอดมันเอาไว้อยู่ ตัวมันยังไม่เย็นลงเลย

               “มันจะติดไข้นะ…”

               “ไม่เป็นไร…” ผมพูด “กูขอกอดมึงนะ”

               บีไม่ตอบอะไร…เขาหลับไปแล้ว

 

               ความสัมพันธ์ของเราเปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพียงแค่ค่ำคืนนั้นที่ผ่านมา เราสองคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง บีใช้เวลารักษาตัวเองอีกประมาณอาทิตย์หนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาซ้อมแข่งกันได้ และครั้งนี้ ทันทีที่เราได้ร่วมทีมกัน ความร่วมมือและความเข้าขากันของเราสองคนก็ทำออกมาได้ดีจนอาจารย์และเพื่อนงงเป็นไก่ตาแตก แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือเรื่องราวดีๆ ระหว่างเรา ทำให้อาจารย์ออกปากว่าการแข่งขันปลายเดือนหน้าระดับอำเภอ…ถ้วยแชมป์ถูกเขียนชื่อวิทยาลัยของเราลงไว้แล้ว

               คืนนี้เราก็มักจะนอนเหมือนเดิม นั่นคือผมเป็นฝ่ายนอนกอดมัน เราไม่ได้พูดเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ได้ตั้งชี่อให้มัน แต่การที่เรานอนกอดกันมันทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้นจริงๆ

               “มึง…สรุปเราเป็นอะไรกันวะ ?”

               “ถามทำไมวะ มันไม่ได้มีชื่อเรียกนี่นา…”

               “ก็มึงไม่ได้ตั้งชื่อไง” ผมว่า “นอนให้กูกอดทุกวัน เสือกไม่ยอมบอกว่ามันหมายความว่าอะไร”

               บีหันหน้ากลับมาหาผมช้าๆ แล้วกอดผมตอบ “มึงอะ นอนกอดกูทุกคืน…ทำไมไม่ตั้งชื่อ”

               “งั้นมึงจะเป็นเมียกูไหมล่ะ ?” ผมถามออกไปตรงๆ

               “ถ้ามึงอยากให้กูเป็นกูก็เป็น…”

               “เป็นเมียต้องโดนกูนะ…ไม่อยากเป็นผัวกูเหรอ ?” ผมพูดติดตลก

               “กูเป็นคนบอกชอบมึงก่อนนี่นา…ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็เป็นได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าเป็นมึงอะ”

               “งั้นก็ เป็นแฟน…ไม่ต้องสนใจเรื่องผัวเมียอะไรนั่นหรอก แล้วแต่เวลาและอารมณ์ก็แล้วกัน…แต่เราเป็นแฟนกันอะ อันนี้คือของจริง”

               “ก็…ตามนั้น”

               พูดจบผมก็หอมแก้มมันฟอดใหญ่ แสงไฟสลัวทำให้เห็นว่ามันแอบยิ้มเหมือนกัน

               “เขินเหรอ ?”

               “เออ…”

               “งั้น…คืนนี้ต้องโดนแล้วป่าววะ ?” ผมพูดจบก็เริ่มพรมจูบที่หน้าผากมันอย่างแผ่วเบา ลมหายใจของเราสองคนเริ่มหนักหน่วงมากขึ้น เมื่อตอนที่ผมค่อยๆ สอดมือลงไปในกางเกงบอกเซอร์ของมัน นี่คือครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสร่างกายของมันในจุดที่อ่อนไหวแบบนี้ บีหายใจหอบถี่ ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อย เพื่อที่จะให้มือของผมนั้นสอดลงไปได้ไม่ยากนัก กระทั่งไม่นาน มือของผมก็สอดลงในกางเกงของมันได้ แล้วคว้าเอาความเป็นชายของมันเข้ามาในมือแล้วเริ่มชักเบาๆ

               “อึก…” มันเกร็งนิดหน่อย แต่ไม่นานส่วนอ่อนไหวนั้นก็เริ่มตอบรับ

               “ควยแข็งแล้วเหรอวะ ?”

               “ไอ้สัส มึงชักมันก็แข็งดิวะ” มันพูด แล้วก็หายใจดังขึ้นเรื่อยๆ “อึ๊…อ๊ะ อาห์…”

               “ไม่เป็นไร…” ผมพูด แล้วจูบหน้าผากไอ้บีเบาๆ “ถ้าเสียวก็ครางออกมาได้เลย” ผมเริ่มชักควยให้มันเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มถอดกางเกงมันออกช้าๆ พอให้มันสามารถแยกขาออกได้พอประมาณที่ผมจะสามารถกอบกุมส่วนนั้นได้ง่ายขึ้น ก่อนที่ผมจะดึงใบหน้ามันเข้ามาจูบทันทีแล้วชักให้มันอย่างต่อเนื่อง

               “อึ๊ อื๊อออ อื๊อออออ….” เสียงครางของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ ผมเองก็เริ่มรู้สึกควยแข็งขึ้นมาแล้วเหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าชีวิตนี้จะสามารถหาเพื่อนชายที่มาสร้างสัมพันธ์แบบนี้ได้ล่ะ  ผมเริ่มจูบกับเขาอย่างดูดดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ เรียวลิ้นของเราสองคนเกี่ยวพันกันในรสจูบนั้น แลกเปลี่ยนลมหายใจในสัมผัสที่วูบไหว ก่อนที่ในตอนนั้น มือของเขาจะสอดเข้ามาในกางเกงของผมด้วยเหมือนกัน